ตัวประกอบของ 65126 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65126
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65126 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65126 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 65126 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65126 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65126 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 32563, 65126
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 65126 ÷ 1 | = | 65126 | เหลือเศษ 0 |
| 65126 ÷ 2 | = | 32563 | เหลือเศษ 0 |
| 65126 ÷ 32563 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 65126 ÷ 65126 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65126
| 1 x 65126 | = | 65126 |
| 2 x 32563 | = | 65126 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65126
1 + 2 + 32563 + 65126 = 97692
▶ ตัวประกอบของ 65126 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 32563
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65126 = 2 x 32563
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65126 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65126 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65126 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32563
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65126
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65126
- 65126
- 2
- 32563
ดังนั้น 65126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65126 =
2 x 32563
2. การแยกตัวประกอบของ 65126 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65126 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65126 นั้นก็คือ 2, 32563 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65126
2)6512632563)325631ดังนั้น 65126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65126 = 2 x 32563วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65126
1แยกตัวประกอบของ 65126 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 3256312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32563 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65126 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65126 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65126 นั้นก็คือ 2, 32563 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65126
2
)65126
32563
)32563
1
ดังนั้น 65126 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65126 = 2 x 32563
1แยกตัวประกอบของ 65126 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 325631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32563 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65126 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65126 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇