ตัวประกอบของ 65122 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65122
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65122 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65122 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 65122 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65122 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65122 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 32561, 65122
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65122 ÷ 1 | = | 65122 | เหลือเศษ 0 |
65122 ÷ 2 | = | 32561 | เหลือเศษ 0 |
65122 ÷ 32561 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65122 ÷ 65122 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65122
1 x 65122 | = | 65122 |
2 x 32561 | = | 65122 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65122
1 + 2 + 32561 + 65122 = 97686
▶ ตัวประกอบของ 65122 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 32561
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65122 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65122 = 2 x 32561
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65122 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65122 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65122 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32561
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65122
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65122
- 65122
- 2
- 32561
ดังนั้น 65122 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65122 =
2 x 32561
2. การแยกตัวประกอบของ 65122 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65122 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65122 นั้นก็คือ 2, 32561 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65122
2)6512232561)325611ดังนั้น 65122 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65122 = 2 x 32561วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65122
1แยกตัวประกอบของ 65122 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 3256112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32561 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65122 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65122 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65122 นั้นก็คือ 2, 32561 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65122
2
)65122
32561
)32561
1
ดังนั้น 65122 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65122 = 2 x 32561
1แยกตัวประกอบของ 65122 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 325611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32561 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65122 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65122 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇