โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65128 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65128

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65128 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65128 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 1163, 2326, 4652, 8141, 9304, 16282, 32564, 65128
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65128 ÷ 1=65128เหลือเศษ 0
65128 ÷ 2=32564เหลือเศษ 0
65128 ÷ 4=16282เหลือเศษ 0
65128 ÷ 7=9304เหลือเศษ 0
65128 ÷ 8=8141เหลือเศษ 0
65128 ÷ 14=4652เหลือเศษ 0
65128 ÷ 28=2326เหลือเศษ 0
65128 ÷ 56=1163เหลือเศษ 0
65128 ÷ 1163=56เหลือเศษ 0
65128 ÷ 2326=28เหลือเศษ 0
65128 ÷ 4652=14เหลือเศษ 0
65128 ÷ 8141=8เหลือเศษ 0
65128 ÷ 9304=7เหลือเศษ 0
65128 ÷ 16282=4เหลือเศษ 0
65128 ÷ 32564=2เหลือเศษ 0
65128 ÷ 65128=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65128
1 x 65128
2 x 32564
4 x 16282
7 x 9304
8 x 8141
14 x 4652
28 x 2326
56 x 1163
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65128
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 1163 + 2326 + 4652 + 8141 + 9304 + 16282 + 32564 + 65128 = 139680
ตัวประกอบของ 65128 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 1163
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65128 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65128 = 2 x 2 x 2 x 7 x 1163
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65128 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65128 = 23 x 7 x 1163
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65128 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65128 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65128 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32564
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65128
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65128 แบบที่หนึ่ง
  • 65128
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 1163

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65128 แบบที่สอง
  • 65128
    • 2
    • 32564
      • 2
      • 16282
        • 2
        • 8141
          • 7
          • 1163
ดังนั้น 65128 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65128 = 2 x 2 x 2 x 7 x 1163
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65128 = 23 x 7 x 1163 หรือ 23 x 71 x 11631

2. การแยกตัวประกอบของ 65128 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65128 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65128 นั้นก็คือ 2, 7, 1163 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65128

2
)65128
2
)32564
2
)16282
7
)8141
1163
)1163
1
ดังนั้น 65128 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65128 = 2 x 2 x 2 x 7 x 1163
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65128 = 23 x 7 x 1163 หรือ 23 x 71 x 11631

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65128

1แยกตัวประกอบของ 65128 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 11631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1163 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65128 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65128 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇