ตัวประกอบของ 5770 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5770
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5770 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5770 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5770 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5770 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5770 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 577, 1154, 2885, 5770
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5770 ÷ 1 | = | 5770 | เหลือเศษ 0 |
5770 ÷ 2 | = | 2885 | เหลือเศษ 0 |
5770 ÷ 5 | = | 1154 | เหลือเศษ 0 |
5770 ÷ 10 | = | 577 | เหลือเศษ 0 |
5770 ÷ 577 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
5770 ÷ 1154 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
5770 ÷ 2885 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5770 ÷ 5770 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5770
1 x 5770 | = | 5770 |
2 x 2885 | = | 5770 |
5 x 1154 | = | 5770 |
10 x 577 | = | 5770 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5770
1 + 2 + 5 + 10 + 577 + 1154 + 2885 + 5770 = 10404
▶ ตัวประกอบของ 5770 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 577
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5770 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5770 = 2 x 5 x 577
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5770 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5770 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5770 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2885
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5770
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5770 แบบที่หนึ่ง
- 5770
- 10
- 2
- 5
- 577
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5770 แบบที่สอง
- 5770
- 2
- 2885
- 5
- 577
ดังนั้น 5770 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5770 =
2 x 5 x 577
2. การแยกตัวประกอบของ 5770 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5770 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5770 นั้นก็คือ 2, 5, 577 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5770
2)57705)2885577)5771ดังนั้น 5770 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5770 = 2 x 5 x 577วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5770
1แยกตัวประกอบของ 5770 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 57712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 577 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5770 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5770 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5770 นั้นก็คือ 2, 5, 577 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5770
2
)5770
5
)2885
577
)577
1
ดังนั้น 5770 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5770 = 2 x 5 x 577
1แยกตัวประกอบของ 5770 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 5771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 577 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5770 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5770 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇