โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5768 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5768

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5768 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5768 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 103, 206, 412, 721, 824, 1442, 2884, 5768
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5768 ÷ 1=5768เหลือเศษ 0
5768 ÷ 2=2884เหลือเศษ 0
5768 ÷ 4=1442เหลือเศษ 0
5768 ÷ 7=824เหลือเศษ 0
5768 ÷ 8=721เหลือเศษ 0
5768 ÷ 14=412เหลือเศษ 0
5768 ÷ 28=206เหลือเศษ 0
5768 ÷ 56=103เหลือเศษ 0
5768 ÷ 103=56เหลือเศษ 0
5768 ÷ 206=28เหลือเศษ 0
5768 ÷ 412=14เหลือเศษ 0
5768 ÷ 721=8เหลือเศษ 0
5768 ÷ 824=7เหลือเศษ 0
5768 ÷ 1442=4เหลือเศษ 0
5768 ÷ 2884=2เหลือเศษ 0
5768 ÷ 5768=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5768
1 x 5768
2 x 2884
4 x 1442
7 x 824
8 x 721
14 x 412
28 x 206
56 x 103
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5768
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 103 + 206 + 412 + 721 + 824 + 1442 + 2884 + 5768 = 12480
ตัวประกอบของ 5768 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 103
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5768 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5768 = 2 x 2 x 2 x 7 x 103
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5768 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5768 = 23 x 7 x 103
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5768 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5768 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5768 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2884
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5768
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5768 แบบที่หนึ่ง
  • 5768
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 103

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5768 แบบที่สอง
  • 5768
    • 2
    • 2884
      • 2
      • 1442
        • 2
        • 721
          • 7
          • 103
ดังนั้น 5768 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5768 = 2 x 2 x 2 x 7 x 103
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5768 = 23 x 7 x 103 หรือ 23 x 71 x 1031

2. การแยกตัวประกอบของ 5768 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5768 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5768 นั้นก็คือ 2, 7, 103 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5768

2
)5768
2
)2884
2
)1442
7
)721
103
)103
1
ดังนั้น 5768 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5768 = 2 x 2 x 2 x 7 x 103
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5768 = 23 x 7 x 103 หรือ 23 x 71 x 1031

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5768

1แยกตัวประกอบของ 5768 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 1031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5768 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5768 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇