ตัวประกอบของ 5662 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5662
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5662 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5662 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5662 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5662 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5662 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 19, 38, 149, 298, 2831, 5662
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5662 ÷ 1 | = | 5662 | เหลือเศษ 0 |
| 5662 ÷ 2 | = | 2831 | เหลือเศษ 0 |
| 5662 ÷ 19 | = | 298 | เหลือเศษ 0 |
| 5662 ÷ 38 | = | 149 | เหลือเศษ 0 |
| 5662 ÷ 149 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
| 5662 ÷ 298 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
| 5662 ÷ 2831 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 5662 ÷ 5662 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5662
| 1 x 5662 | = | 5662 |
| 2 x 2831 | = | 5662 |
| 19 x 298 | = | 5662 |
| 38 x 149 | = | 5662 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5662
1 + 2 + 19 + 38 + 149 + 298 + 2831 + 5662 = 9000
▶ ตัวประกอบของ 5662 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 149
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5662 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5662 = 2 x 19 x 149
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5662 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5662 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5662 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2831
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5662
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5662 แบบที่หนึ่ง
- 5662
- 38
- 2
- 19
- 149
- 38
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5662 แบบที่สอง
- 5662
- 2
- 2831
- 19
- 149
ดังนั้น 5662 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5662 =
2 x 19 x 149
2. การแยกตัวประกอบของ 5662 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5662 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5662 นั้นก็คือ 2, 19, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5662
2)566219)2831149)1491ดังนั้น 5662 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5662 = 2 x 19 x 149วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5662
1แยกตัวประกอบของ 5662 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 14912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5662 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5662 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5662 นั้นก็คือ 2, 19, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5662
2
)5662
19
)2831
149
)149
1
ดังนั้น 5662 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5662 = 2 x 19 x 149
1แยกตัวประกอบของ 5662 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 1491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5662 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5662 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇