ตัวประกอบของ 5666 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5666
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5666 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5666 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 5666 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5666 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5666 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 2833, 5666
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5666 ÷ 1 | = | 5666 | เหลือเศษ 0 |
5666 ÷ 2 | = | 2833 | เหลือเศษ 0 |
5666 ÷ 2833 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5666 ÷ 5666 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5666
1 x 5666 | = | 5666 |
2 x 2833 | = | 5666 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5666
1 + 2 + 2833 + 5666 = 8502
▶ ตัวประกอบของ 5666 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 2833
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5666 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5666 = 2 x 2833
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5666 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5666 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5666 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2833
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5666
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5666
- 5666
- 2
- 2833
ดังนั้น 5666 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5666 =
2 x 2833
2. การแยกตัวประกอบของ 5666 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5666 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5666 นั้นก็คือ 2, 2833 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5666
2)56662833)28331ดังนั้น 5666 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5666 = 2 x 2833วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5666
1แยกตัวประกอบของ 5666 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 283312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2833 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5666 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5666 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5666 นั้นก็คือ 2, 2833 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5666
2
)5666
2833
)2833
1
ดังนั้น 5666 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5666 = 2 x 2833
1แยกตัวประกอบของ 5666 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 28331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2833 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5666 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5666 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇