ตัวประกอบของ 5282 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5282
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5282 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5282 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5282 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5282 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5282 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 19, 38, 139, 278, 2641, 5282
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5282 ÷ 1 | = | 5282 | เหลือเศษ 0 |
5282 ÷ 2 | = | 2641 | เหลือเศษ 0 |
5282 ÷ 19 | = | 278 | เหลือเศษ 0 |
5282 ÷ 38 | = | 139 | เหลือเศษ 0 |
5282 ÷ 139 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
5282 ÷ 278 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
5282 ÷ 2641 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5282 ÷ 5282 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5282
1 x 5282 | = | 5282 |
2 x 2641 | = | 5282 |
19 x 278 | = | 5282 |
38 x 139 | = | 5282 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5282
1 + 2 + 19 + 38 + 139 + 278 + 2641 + 5282 = 8400
▶ ตัวประกอบของ 5282 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 139
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5282 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5282 = 2 x 19 x 139
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5282 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5282 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5282 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2641
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5282
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5282 แบบที่หนึ่ง
- 5282
- 38
- 2
- 19
- 139
- 38
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5282 แบบที่สอง
- 5282
- 2
- 2641
- 19
- 139
ดังนั้น 5282 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5282 =
2 x 19 x 139
2. การแยกตัวประกอบของ 5282 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5282 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5282 นั้นก็คือ 2, 19, 139 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5282
2)528219)2641139)1391ดังนั้น 5282 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5282 = 2 x 19 x 139วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5282
1แยกตัวประกอบของ 5282 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 13912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 139 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5282 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5282 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5282 นั้นก็คือ 2, 19, 139 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5282
2
)5282
19
)2641
139
)139
1
ดังนั้น 5282 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5282 = 2 x 19 x 139
1แยกตัวประกอบของ 5282 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 1391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 139 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5282 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5282 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇