ตัวประกอบของ 5206 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5206
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5206 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5206 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5206 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5206 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5206 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 19, 38, 137, 274, 2603, 5206
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5206 ÷ 1 | = | 5206 | เหลือเศษ 0 |
| 5206 ÷ 2 | = | 2603 | เหลือเศษ 0 |
| 5206 ÷ 19 | = | 274 | เหลือเศษ 0 |
| 5206 ÷ 38 | = | 137 | เหลือเศษ 0 |
| 5206 ÷ 137 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
| 5206 ÷ 274 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
| 5206 ÷ 2603 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 5206 ÷ 5206 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5206
| 1 x 5206 | = | 5206 |
| 2 x 2603 | = | 5206 |
| 19 x 274 | = | 5206 |
| 38 x 137 | = | 5206 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5206
1 + 2 + 19 + 38 + 137 + 274 + 2603 + 5206 = 8280
▶ ตัวประกอบของ 5206 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 137
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5206 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5206 = 2 x 19 x 137
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5206 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5206 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5206 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2603
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5206
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5206 แบบที่หนึ่ง
- 5206
- 38
- 2
- 19
- 137
- 38
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5206 แบบที่สอง
- 5206
- 2
- 2603
- 19
- 137
ดังนั้น 5206 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5206 =
2 x 19 x 137
2. การแยกตัวประกอบของ 5206 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5206 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5206 นั้นก็คือ 2, 19, 137 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5206
2)520619)2603137)1371ดังนั้น 5206 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5206 = 2 x 19 x 137วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5206
1แยกตัวประกอบของ 5206 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 13712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 137 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5206 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5206 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5206 นั้นก็คือ 2, 19, 137 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5206
2
)5206
19
)2603
137
)137
1
ดังนั้น 5206 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5206 = 2 x 19 x 137
1แยกตัวประกอบของ 5206 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 1371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 137 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5206 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5206 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇