โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5202 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5202

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5202 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5202 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 17, 18, 34, 51, 102, 153, 289, 306, 578, 867, 1734, 2601, 5202
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5202 ÷ 1=5202เหลือเศษ 0
5202 ÷ 2=2601เหลือเศษ 0
5202 ÷ 3=1734เหลือเศษ 0
5202 ÷ 6=867เหลือเศษ 0
5202 ÷ 9=578เหลือเศษ 0
5202 ÷ 17=306เหลือเศษ 0
5202 ÷ 18=289เหลือเศษ 0
5202 ÷ 34=153เหลือเศษ 0
5202 ÷ 51=102เหลือเศษ 0
5202 ÷ 102=51เหลือเศษ 0
5202 ÷ 153=34เหลือเศษ 0
5202 ÷ 289=18เหลือเศษ 0
5202 ÷ 306=17เหลือเศษ 0
5202 ÷ 578=9เหลือเศษ 0
5202 ÷ 867=6เหลือเศษ 0
5202 ÷ 1734=3เหลือเศษ 0
5202 ÷ 2601=2เหลือเศษ 0
5202 ÷ 5202=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5202
1 x 5202
2 x 2601
3 x 1734
6 x 867
9 x 578
17 x 306
18 x 289
34 x 153
51 x 102
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5202
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 17 + 18 + 34 + 51 + 102 + 153 + 289 + 306 + 578 + 867 + 1734 + 2601 + 5202 = 11973
ตัวประกอบของ 5202 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 17
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5202 = 2 x 3 x 3 x 17 x 17
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5202 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5202 = 2 x 32 x 172
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5202 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5202 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5202 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2601
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5202
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5202 แบบที่หนึ่ง
  • 5202
    • 51
      • 3
      • 17
    • 102
      • 6
        • 2
        • 3
      • 17

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5202 แบบที่สอง
  • 5202
    • 2
    • 2601
      • 3
      • 867
        • 3
        • 289
          • 17
          • 17
ดังนั้น 5202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5202 = 2 x 3 x 3 x 17 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5202 = 2 x 32 x 172 หรือ 21 x 32 x 172

2. การแยกตัวประกอบของ 5202 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5202 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5202 นั้นก็คือ 2, 3, 17 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5202

2
)5202
3
)2601
3
)867
17
)289
17
)17
1
ดังนั้น 5202 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5202 = 2 x 3 x 3 x 17 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5202 = 2 x 32 x 172 หรือ 21 x 32 x 172

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5202

1แยกตัวประกอบของ 5202 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 172
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 3 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5202 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5202 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇