ตัวประกอบของ 5215 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5215
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5215 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5215 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5215 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5215 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5215 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 7, 35, 149, 745, 1043, 5215
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5215 ÷ 1 | = | 5215 | เหลือเศษ 0 |
| 5215 ÷ 5 | = | 1043 | เหลือเศษ 0 |
| 5215 ÷ 7 | = | 745 | เหลือเศษ 0 |
| 5215 ÷ 35 | = | 149 | เหลือเศษ 0 |
| 5215 ÷ 149 | = | 35 | เหลือเศษ 0 |
| 5215 ÷ 745 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 5215 ÷ 1043 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 5215 ÷ 5215 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5215
| 1 x 5215 | = | 5215 |
| 5 x 1043 | = | 5215 |
| 7 x 745 | = | 5215 |
| 35 x 149 | = | 5215 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5215
1 + 5 + 7 + 35 + 149 + 745 + 1043 + 5215 = 7200
▶ ตัวประกอบของ 5215 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 7, 149
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5215 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5215 = 5 x 7 x 149
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5215 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5215 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5215 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1043
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5215
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5215 แบบที่หนึ่ง
- 5215
- 35
- 5
- 7
- 149
- 35
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5215 แบบที่สอง
- 5215
- 5
- 1043
- 7
- 149
ดังนั้น 5215 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5215 =
5 x 7 x 149
2. การแยกตัวประกอบของ 5215 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5215 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5215 นั้นก็คือ 5, 7, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5215
5)52157)1043149)1491ดังนั้น 5215 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5215 = 5 x 7 x 149วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5215
1แยกตัวประกอบของ 5215 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 14912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5215 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5215 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5215 นั้นก็คือ 5, 7, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5215
5
)5215
7
)1043
149
)149
1
ดังนั้น 5215 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5215 = 5 x 7 x 149
1แยกตัวประกอบของ 5215 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 1491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5215 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5215 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇