โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5216 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5216

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5216 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5216 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 163, 326, 652, 1304, 2608, 5216
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5216 ÷ 1=5216เหลือเศษ 0
5216 ÷ 2=2608เหลือเศษ 0
5216 ÷ 4=1304เหลือเศษ 0
5216 ÷ 8=652เหลือเศษ 0
5216 ÷ 16=326เหลือเศษ 0
5216 ÷ 32=163เหลือเศษ 0
5216 ÷ 163=32เหลือเศษ 0
5216 ÷ 326=16เหลือเศษ 0
5216 ÷ 652=8เหลือเศษ 0
5216 ÷ 1304=4เหลือเศษ 0
5216 ÷ 2608=2เหลือเศษ 0
5216 ÷ 5216=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5216
1 x 5216
2 x 2608
4 x 1304
8 x 652
16 x 326
32 x 163
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5216
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 163 + 326 + 652 + 1304 + 2608 + 5216 = 10332
ตัวประกอบของ 5216 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 163
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5216 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5216 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 163
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5216 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5216 = 25 x 163
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5216 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5216 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5216 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2608
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5216
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5216 แบบที่หนึ่ง
  • 5216
    • 32
      • 4
        • 2
        • 2
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 163

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5216 แบบที่สอง
  • 5216
    • 2
    • 2608
      • 2
      • 1304
        • 2
        • 652
          • 2
          • 326
            • 2
            • 163
ดังนั้น 5216 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5216 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 163
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5216 = 25 x 163 หรือ 25 x 1631

2. การแยกตัวประกอบของ 5216 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5216 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5216 นั้นก็คือ 2, 163 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5216

2
)5216
2
)2608
2
)1304
2
)652
2
)326
163
)163
1
ดังนั้น 5216 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5216 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 163
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5216 = 25 x 163 หรือ 25 x 1631

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5216

1แยกตัวประกอบของ 5216 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 25 x 1631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
  • 👉 163 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5216 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5216 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇