โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5200 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5200

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5200 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5200 มีทั้งหมด 30 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 8, 10, 13, 16, 20, 25, 26, 40, 50, 52, 65, 80, 100, 104, 130, 200, 208, 260, 325, 400, 520, 650, 1040, 1300, 2600, 5200
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5200 ÷ 1=5200เหลือเศษ 0
5200 ÷ 2=2600เหลือเศษ 0
5200 ÷ 4=1300เหลือเศษ 0
5200 ÷ 5=1040เหลือเศษ 0
5200 ÷ 8=650เหลือเศษ 0
5200 ÷ 10=520เหลือเศษ 0
5200 ÷ 13=400เหลือเศษ 0
5200 ÷ 16=325เหลือเศษ 0
5200 ÷ 20=260เหลือเศษ 0
5200 ÷ 25=208เหลือเศษ 0
5200 ÷ 26=200เหลือเศษ 0
5200 ÷ 40=130เหลือเศษ 0
5200 ÷ 50=104เหลือเศษ 0
5200 ÷ 52=100เหลือเศษ 0
5200 ÷ 65=80เหลือเศษ 0
5200 ÷ 80=65เหลือเศษ 0
5200 ÷ 100=52เหลือเศษ 0
5200 ÷ 104=50เหลือเศษ 0
5200 ÷ 130=40เหลือเศษ 0
5200 ÷ 200=26เหลือเศษ 0
5200 ÷ 208=25เหลือเศษ 0
5200 ÷ 260=20เหลือเศษ 0
5200 ÷ 325=16เหลือเศษ 0
5200 ÷ 400=13เหลือเศษ 0
5200 ÷ 520=10เหลือเศษ 0
5200 ÷ 650=8เหลือเศษ 0
5200 ÷ 1040=5เหลือเศษ 0
5200 ÷ 1300=4เหลือเศษ 0
5200 ÷ 2600=2เหลือเศษ 0
5200 ÷ 5200=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5200
1 x 5200
2 x 2600
4 x 1300
5 x 1040
8 x 650
10 x 520
13 x 400
16 x 325
20 x 260
25 x 208
26 x 200
40 x 130
50 x 104
52 x 100
65 x 80
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5200
1 + 2 + 4 + 5 + 8 + 10 + 13 + 16 + 20 + 25 + 26 + 40 + 50 + 52 + 65 + 80 + 100 + 104 + 130 + 200 + 208 + 260 + 325 + 400 + 520 + 650 + 1040 + 1300 + 2600 + 5200 = 13454
ตัวประกอบของ 5200 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5200 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5200 = 2 x 2 x 2 x 2 x 5 x 5 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5200 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5200 = 24 x 52 x 13
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5200 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5200 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5200 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2600
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5200
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5200 แบบที่หนึ่ง
  • 5200
    • 65
      • 5
      • 13
    • 80
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 10
        • 2
        • 5

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5200 แบบที่สอง
  • 5200
    • 2
    • 2600
      • 2
      • 1300
        • 2
        • 650
          • 2
          • 325
            • 5
            • 65
              • 5
              • 13
ดังนั้น 5200 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5200 = 2 x 2 x 2 x 2 x 5 x 5 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5200 = 24 x 52 x 13 หรือ 24 x 52 x 131

2. การแยกตัวประกอบของ 5200 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5200 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5200 นั้นก็คือ 2, 5, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5200

2
)5200
2
)2600
2
)1300
2
)650
5
)325
5
)65
13
)13
1
ดังนั้น 5200 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5200 = 2 x 2 x 2 x 2 x 5 x 5 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5200 = 24 x 52 x 13 หรือ 24 x 52 x 131

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5200

1แยกตัวประกอบของ 5200 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 52 x 131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 3 x 2 = 30
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5200 มีทั้งหมด 30 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5200 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇