ตัวประกอบของ 333 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 333
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 333 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 333 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 333 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 333 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 333 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 37, 111, 333
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
333 ÷ 1 | = | 333 | เหลือเศษ 0 |
333 ÷ 3 | = | 111 | เหลือเศษ 0 |
333 ÷ 9 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
333 ÷ 37 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
333 ÷ 111 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
333 ÷ 333 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 333
1 x 333 | = | 333 |
3 x 111 | = | 333 |
9 x 37 | = | 333 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 333
1 + 3 + 9 + 37 + 111 + 333 = 494
▶ ตัวประกอบของ 333 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 37
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 333 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
333 = 3 x 3 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 333 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
333 = 32 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 333 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
333 = 32 x 37
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 333 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 333 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 333 มา 1 คู่ เช่น 3 x 111
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 333
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 333 แบบที่หนึ่ง
- 333
- 9
- 3
- 3
- 37
- 9
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 333 แบบที่สอง
ดังนั้น 333 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
333 =
3 x 3 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
333 =
32 x 37 หรือ 32 x 371
2. การแยกตัวประกอบของ 333 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 333 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 333 นั้นก็คือ 3, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 333
3)3333)11137)371ดังนั้น 333 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้333 = 3 x 3 x 37หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง333 = 32 x 37 หรือ 32 x 371วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 333
1แยกตัวประกอบของ 333 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 3712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 333 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 333 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 333 นั้นก็คือ 3, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 333
3
)333
3
)111
37
)37
1
ดังนั้น 333 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
333 = 3 x 3 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
333 = 32 x 37 หรือ 32 x 371
1แยกตัวประกอบของ 333 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 333 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 333 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇