โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 3102 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3102

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 3102 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 3102 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 11, 22, 33, 47, 66, 94, 141, 282, 517, 1034, 1551, 3102
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3102 ÷ 1=3102เหลือเศษ 0
3102 ÷ 2=1551เหลือเศษ 0
3102 ÷ 3=1034เหลือเศษ 0
3102 ÷ 6=517เหลือเศษ 0
3102 ÷ 11=282เหลือเศษ 0
3102 ÷ 22=141เหลือเศษ 0
3102 ÷ 33=94เหลือเศษ 0
3102 ÷ 47=66เหลือเศษ 0
3102 ÷ 66=47เหลือเศษ 0
3102 ÷ 94=33เหลือเศษ 0
3102 ÷ 141=22เหลือเศษ 0
3102 ÷ 282=11เหลือเศษ 0
3102 ÷ 517=6เหลือเศษ 0
3102 ÷ 1034=3เหลือเศษ 0
3102 ÷ 1551=2เหลือเศษ 0
3102 ÷ 3102=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3102
1 x 3102
2 x 1551
3 x 1034
6 x 517
11 x 282
22 x 141
33 x 94
47 x 66
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3102
1 + 2 + 3 + 6 + 11 + 22 + 33 + 47 + 66 + 94 + 141 + 282 + 517 + 1034 + 1551 + 3102 = 6912
ตัวประกอบของ 3102 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 11, 47
การแยกตัวประกอบคืออะไร

3102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

3102 = 2 x 3 x 11 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 3102 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3102 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3102 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1551
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3102
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3102 แบบที่หนึ่ง
  • 3102
    • 47
    • 66
      • 6
        • 2
        • 3
      • 11

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3102 แบบที่สอง
  • 3102
    • 2
    • 1551
      • 3
      • 517
        • 11
        • 47
ดังนั้น 3102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3102 = 2 x 3 x 11 x 47

2. การแยกตัวประกอบของ 3102 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 3102 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3102 นั้นก็คือ 2, 3, 11, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3102

2
)3102
3
)1551
11
)517
47
)47
1
ดังนั้น 3102 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3102 = 2 x 3 x 11 x 47

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3102

1แยกตัวประกอบของ 3102 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 111 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3102 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3102 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇