ตัวประกอบของ 266 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 266
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 266 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 266 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 266 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 266 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 266 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 19, 38, 133, 266
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
266 ÷ 1 | = | 266 | เหลือเศษ 0 |
266 ÷ 2 | = | 133 | เหลือเศษ 0 |
266 ÷ 7 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
266 ÷ 14 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
266 ÷ 19 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
266 ÷ 38 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
266 ÷ 133 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
266 ÷ 266 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 266
1 x 266 | = | 266 |
2 x 133 | = | 266 |
7 x 38 | = | 266 |
14 x 19 | = | 266 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 266
1 + 2 + 7 + 14 + 19 + 38 + 133 + 266 = 480
▶ ตัวประกอบของ 266 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 19
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 266 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
266 = 2 x 7 x 19
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 266 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 266 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 266 มา 1 คู่ เช่น 2 x 133
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 266
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 266 แบบที่หนึ่ง
- 266
- 14
- 2
- 7
- 19
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 266 แบบที่สอง
ดังนั้น 266 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
266 =
2 x 7 x 19
2. การแยกตัวประกอบของ 266 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 266 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 266 นั้นก็คือ 2, 7, 19 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 266
2)2667)13319)191ดังนั้น 266 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้266 = 2 x 7 x 19วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 266
1แยกตัวประกอบของ 266 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 1912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 266 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 266 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 266 นั้นก็คือ 2, 7, 19 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 266
2
)266
7
)133
19
)19
1
ดังนั้น 266 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
266 = 2 x 7 x 19
1แยกตัวประกอบของ 266 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 266 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 266 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇