โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 2556 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2556

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 2556 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 2556 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 9, 12, 18, 36, 71, 142, 213, 284, 426, 639, 852, 1278, 2556
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2556 ÷ 1=2556เหลือเศษ 0
2556 ÷ 2=1278เหลือเศษ 0
2556 ÷ 3=852เหลือเศษ 0
2556 ÷ 4=639เหลือเศษ 0
2556 ÷ 6=426เหลือเศษ 0
2556 ÷ 9=284เหลือเศษ 0
2556 ÷ 12=213เหลือเศษ 0
2556 ÷ 18=142เหลือเศษ 0
2556 ÷ 36=71เหลือเศษ 0
2556 ÷ 71=36เหลือเศษ 0
2556 ÷ 142=18เหลือเศษ 0
2556 ÷ 213=12เหลือเศษ 0
2556 ÷ 284=9เหลือเศษ 0
2556 ÷ 426=6เหลือเศษ 0
2556 ÷ 639=4เหลือเศษ 0
2556 ÷ 852=3เหลือเศษ 0
2556 ÷ 1278=2เหลือเศษ 0
2556 ÷ 2556=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2556
1 x 2556
2 x 1278
3 x 852
4 x 639
6 x 426
9 x 284
12 x 213
18 x 142
36 x 71
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2556
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 9 + 12 + 18 + 36 + 71 + 142 + 213 + 284 + 426 + 639 + 852 + 1278 + 2556 = 6552
ตัวประกอบของ 2556 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 71
การแยกตัวประกอบคืออะไร

2556 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

2556 = 2 x 2 x 3 x 3 x 71
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2556 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2556 = 22 x 32 x 71
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 2556 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2556 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2556 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1278
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2556
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2556 แบบที่หนึ่ง
  • 2556
    • 36
      • 6
        • 2
        • 3
      • 6
        • 2
        • 3
    • 71

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2556 แบบที่สอง
  • 2556
    • 2
    • 1278
      • 2
      • 639
        • 3
        • 213
          • 3
          • 71
ดังนั้น 2556 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2556 = 2 x 2 x 3 x 3 x 71
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2556 = 22 x 32 x 71 หรือ 22 x 32 x 711

2. การแยกตัวประกอบของ 2556 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 2556 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2556 นั้นก็คือ 2, 3, 71 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2556

2
)2556
2
)1278
3
)639
3
)213
71
)71
1
ดังนั้น 2556 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2556 = 2 x 2 x 3 x 3 x 71
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2556 = 22 x 32 x 71 หรือ 22 x 32 x 711

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2556

1แยกตัวประกอบของ 2556 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 32 x 711
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 71 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2556 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2556 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇