โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 23464 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23464

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 23464 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 23464 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 419, 838, 1676, 2933, 3352, 5866, 11732, 23464
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
23464 ÷ 1=23464เหลือเศษ 0
23464 ÷ 2=11732เหลือเศษ 0
23464 ÷ 4=5866เหลือเศษ 0
23464 ÷ 7=3352เหลือเศษ 0
23464 ÷ 8=2933เหลือเศษ 0
23464 ÷ 14=1676เหลือเศษ 0
23464 ÷ 28=838เหลือเศษ 0
23464 ÷ 56=419เหลือเศษ 0
23464 ÷ 419=56เหลือเศษ 0
23464 ÷ 838=28เหลือเศษ 0
23464 ÷ 1676=14เหลือเศษ 0
23464 ÷ 2933=8เหลือเศษ 0
23464 ÷ 3352=7เหลือเศษ 0
23464 ÷ 5866=4เหลือเศษ 0
23464 ÷ 11732=2เหลือเศษ 0
23464 ÷ 23464=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23464
1 x 23464
2 x 11732
4 x 5866
7 x 3352
8 x 2933
14 x 1676
28 x 838
56 x 419
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23464
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 419 + 838 + 1676 + 2933 + 3352 + 5866 + 11732 + 23464 = 50400
ตัวประกอบของ 23464 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 419
การแยกตัวประกอบคืออะไร

23464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

23464 = 2 x 2 x 2 x 7 x 419
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23464 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23464 = 23 x 7 x 419
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 23464 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23464 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23464 มา 1 คู่ เช่น 2 x 11732
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23464
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23464 แบบที่หนึ่ง
  • 23464
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 419

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23464 แบบที่สอง
  • 23464
    • 2
    • 11732
      • 2
      • 5866
        • 2
        • 2933
          • 7
          • 419
ดังนั้น 23464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23464 = 2 x 2 x 2 x 7 x 419
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23464 = 23 x 7 x 419 หรือ 23 x 71 x 4191

2. การแยกตัวประกอบของ 23464 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 23464 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23464 นั้นก็คือ 2, 7, 419 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23464

2
)23464
2
)11732
2
)5866
7
)2933
419
)419
1
ดังนั้น 23464 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23464 = 2 x 2 x 2 x 7 x 419
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23464 = 23 x 7 x 419 หรือ 23 x 71 x 4191

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23464

1แยกตัวประกอบของ 23464 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 4191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 419 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23464 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23464 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇