ตัวประกอบของ 2337 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2337
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2337 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2337 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2337 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2337 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2337 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 19, 41, 57, 123, 779, 2337
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2337 ÷ 1 | = | 2337 | เหลือเศษ 0 |
2337 ÷ 3 | = | 779 | เหลือเศษ 0 |
2337 ÷ 19 | = | 123 | เหลือเศษ 0 |
2337 ÷ 41 | = | 57 | เหลือเศษ 0 |
2337 ÷ 57 | = | 41 | เหลือเศษ 0 |
2337 ÷ 123 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
2337 ÷ 779 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
2337 ÷ 2337 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2337
1 x 2337 | = | 2337 |
3 x 779 | = | 2337 |
19 x 123 | = | 2337 |
41 x 57 | = | 2337 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2337
1 + 3 + 19 + 41 + 57 + 123 + 779 + 2337 = 3360
▶ ตัวประกอบของ 2337 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 19, 41
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2337 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2337 = 3 x 19 x 41
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2337 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2337 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2337 มา 1 คู่ เช่น 3 x 779
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2337
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2337 แบบที่หนึ่ง
- 2337
- 41
- 57
- 3
- 19
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2337 แบบที่สอง
- 2337
- 3
- 779
- 19
- 41
ดังนั้น 2337 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2337 =
3 x 19 x 41
2. การแยกตัวประกอบของ 2337 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2337 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2337 นั้นก็คือ 3, 19, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2337
3)233719)77941)411ดังนั้น 2337 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2337 = 3 x 19 x 41วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2337
1แยกตัวประกอบของ 2337 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 191 x 4112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2337 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2337 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2337 นั้นก็คือ 3, 19, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2337
3
)2337
19
)779
41
)41
1
ดังนั้น 2337 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2337 = 3 x 19 x 41
1แยกตัวประกอบของ 2337 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 191 x 411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2337 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2337 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇