โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 2300 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2300

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 2300 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 2300 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 20, 23, 25, 46, 50, 92, 100, 115, 230, 460, 575, 1150, 2300
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2300 ÷ 1=2300เหลือเศษ 0
2300 ÷ 2=1150เหลือเศษ 0
2300 ÷ 4=575เหลือเศษ 0
2300 ÷ 5=460เหลือเศษ 0
2300 ÷ 10=230เหลือเศษ 0
2300 ÷ 20=115เหลือเศษ 0
2300 ÷ 23=100เหลือเศษ 0
2300 ÷ 25=92เหลือเศษ 0
2300 ÷ 46=50เหลือเศษ 0
2300 ÷ 50=46เหลือเศษ 0
2300 ÷ 92=25เหลือเศษ 0
2300 ÷ 100=23เหลือเศษ 0
2300 ÷ 115=20เหลือเศษ 0
2300 ÷ 230=10เหลือเศษ 0
2300 ÷ 460=5เหลือเศษ 0
2300 ÷ 575=4เหลือเศษ 0
2300 ÷ 1150=2เหลือเศษ 0
2300 ÷ 2300=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2300
1 x 2300
2 x 1150
4 x 575
5 x 460
10 x 230
20 x 115
23 x 100
25 x 92
46 x 50
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2300
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 + 23 + 25 + 46 + 50 + 92 + 100 + 115 + 230 + 460 + 575 + 1150 + 2300 = 5208
ตัวประกอบของ 2300 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 23
การแยกตัวประกอบคืออะไร

2300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

2300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 23
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2300 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2300 = 22 x 52 x 23
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 2300 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2300 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2300 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1150
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2300
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2300 แบบที่หนึ่ง
  • 2300
    • 46
      • 2
      • 23
    • 50
      • 5
      • 10
        • 2
        • 5

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2300 แบบที่สอง
  • 2300
    • 2
    • 1150
      • 2
      • 575
        • 5
        • 115
          • 5
          • 23
ดังนั้น 2300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2300 = 22 x 52 x 23 หรือ 22 x 52 x 231

2. การแยกตัวประกอบของ 2300 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 2300 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2300 นั้นก็คือ 2, 5, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2300

2
)2300
2
)1150
5
)575
5
)115
23
)23
1
ดังนั้น 2300 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2300 = 2 x 2 x 5 x 5 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2300 = 22 x 52 x 23 หรือ 22 x 52 x 231

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2300

1แยกตัวประกอบของ 2300 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 52 x 231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2300 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2300 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇