ตัวประกอบของ 1317 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1317
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1317 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1317 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 1317 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1317 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1317 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 439, 1317
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1317 ÷ 1 | = | 1317 | เหลือเศษ 0 |
1317 ÷ 3 | = | 439 | เหลือเศษ 0 |
1317 ÷ 439 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
1317 ÷ 1317 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1317
1 x 1317 | = | 1317 |
3 x 439 | = | 1317 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1317
1 + 3 + 439 + 1317 = 1760
▶ ตัวประกอบของ 1317 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 439
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1317 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1317 = 3 x 439
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1317 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1317 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1317 มา 1 คู่ เช่น 3 x 439
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1317
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1317
- 1317
- 3
- 439
ดังนั้น 1317 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1317 =
3 x 439
2. การแยกตัวประกอบของ 1317 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1317 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1317 นั้นก็คือ 3, 439 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1317
3)1317439)4391ดังนั้น 1317 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1317 = 3 x 439วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1317
1แยกตัวประกอบของ 1317 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 43912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 439 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1317 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1317 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1317 นั้นก็คือ 3, 439 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1317
3
)1317
439
)439
1
ดังนั้น 1317 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1317 = 3 x 439
1แยกตัวประกอบของ 1317 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 4391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 439 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1317 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1317 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇