โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 1316 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1316

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 1316 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 1316 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 14, 28, 47, 94, 188, 329, 658, 1316
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1316 ÷ 1=1316เหลือเศษ 0
1316 ÷ 2=658เหลือเศษ 0
1316 ÷ 4=329เหลือเศษ 0
1316 ÷ 7=188เหลือเศษ 0
1316 ÷ 14=94เหลือเศษ 0
1316 ÷ 28=47เหลือเศษ 0
1316 ÷ 47=28เหลือเศษ 0
1316 ÷ 94=14เหลือเศษ 0
1316 ÷ 188=7เหลือเศษ 0
1316 ÷ 329=4เหลือเศษ 0
1316 ÷ 658=2เหลือเศษ 0
1316 ÷ 1316=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1316
1 x 1316
2 x 658
4 x 329
7 x 188
14 x 94
28 x 47
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1316
1 + 2 + 4 + 7 + 14 + 28 + 47 + 94 + 188 + 329 + 658 + 1316 = 2688
ตัวประกอบของ 1316 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 47
การแยกตัวประกอบคืออะไร

1316 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

1316 = 2 x 2 x 7 x 47
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 1316 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1316 = 22 x 7 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 1316 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1316 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1316 มา 1 คู่ เช่น 2 x 658
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1316
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1316 แบบที่หนึ่ง
  • 1316
    • 28
      • 4
        • 2
        • 2
      • 7
    • 47

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1316 แบบที่สอง
  • 1316
    • 2
    • 658
      • 2
      • 329
        • 7
        • 47
ดังนั้น 1316 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1316 = 2 x 2 x 7 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1316 = 22 x 7 x 47 หรือ 22 x 71 x 471

2. การแยกตัวประกอบของ 1316 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 1316 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1316 นั้นก็คือ 2, 7, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1316

2
)1316
2
)658
7
)329
47
)47
1
ดังนั้น 1316 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1316 = 2 x 2 x 7 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1316 = 22 x 7 x 47 หรือ 22 x 71 x 471

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1316

1แยกตัวประกอบของ 1316 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 71 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1316 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1316 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇