ตัวประกอบของ 10237 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10237
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10237 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10237 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 10237 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10237 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10237 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 29, 353, 10237
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 10237 ÷ 1 | = | 10237 | เหลือเศษ 0 |
| 10237 ÷ 29 | = | 353 | เหลือเศษ 0 |
| 10237 ÷ 353 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
| 10237 ÷ 10237 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10237
| 1 x 10237 | = | 10237 |
| 29 x 353 | = | 10237 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10237
1 + 29 + 353 + 10237 = 10620
▶ ตัวประกอบของ 10237 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
29, 353
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10237 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10237 = 29 x 353
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10237 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10237 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10237 มา 1 คู่ เช่น 29 x 353
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10237
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10237
- 10237
- 29
- 353
ดังนั้น 10237 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10237 =
29 x 353
2. การแยกตัวประกอบของ 10237 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10237 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10237 นั้นก็คือ 29, 353 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10237
29)10237353)3531ดังนั้น 10237 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10237 = 29 x 353วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10237
1แยกตัวประกอบของ 10237 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 291 x 35312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 353 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10237 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10237 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10237 นั้นก็คือ 29, 353 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10237
29
)10237
353
)353
1
ดังนั้น 10237 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10237 = 29 x 353
1แยกตัวประกอบของ 10237 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 291 x 3531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 353 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10237 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10237 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇