ตัวประกอบของ 10182 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10182
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10182 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10182 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10182 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10182 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10182 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 1697, 3394, 5091, 10182
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10182 ÷ 1 | = | 10182 | เหลือเศษ 0 |
10182 ÷ 2 | = | 5091 | เหลือเศษ 0 |
10182 ÷ 3 | = | 3394 | เหลือเศษ 0 |
10182 ÷ 6 | = | 1697 | เหลือเศษ 0 |
10182 ÷ 1697 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
10182 ÷ 3394 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
10182 ÷ 5091 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
10182 ÷ 10182 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10182
1 x 10182 | = | 10182 |
2 x 5091 | = | 10182 |
3 x 3394 | = | 10182 |
6 x 1697 | = | 10182 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10182
1 + 2 + 3 + 6 + 1697 + 3394 + 5091 + 10182 = 20376
▶ ตัวประกอบของ 10182 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1697
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10182 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10182 = 2 x 3 x 1697
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10182 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10182 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10182 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5091
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10182
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10182 แบบที่หนึ่ง
- 10182
- 6
- 2
- 3
- 1697
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10182 แบบที่สอง
- 10182
- 2
- 5091
- 3
- 1697
ดังนั้น 10182 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10182 =
2 x 3 x 1697
2. การแยกตัวประกอบของ 10182 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10182 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10182 นั้นก็คือ 2, 3, 1697 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10182
2)101823)50911697)16971ดังนั้น 10182 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10182 = 2 x 3 x 1697วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10182
1แยกตัวประกอบของ 10182 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 169712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1697 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10182 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10182 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10182 นั้นก็คือ 2, 3, 1697 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10182
2
)10182
3
)5091
1697
)1697
1
ดังนั้น 10182 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10182 = 2 x 3 x 1697
1แยกตัวประกอบของ 10182 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 16971
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1697 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10182 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10182 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇