ตัวประกอบของ 68458 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68458
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68458 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68458 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68458 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68458 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68458 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 2633, 5266, 34229, 68458
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68458 ÷ 1 | = | 68458 | เหลือเศษ 0 |
68458 ÷ 2 | = | 34229 | เหลือเศษ 0 |
68458 ÷ 13 | = | 5266 | เหลือเศษ 0 |
68458 ÷ 26 | = | 2633 | เหลือเศษ 0 |
68458 ÷ 2633 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
68458 ÷ 5266 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
68458 ÷ 34229 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
68458 ÷ 68458 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68458
1 x 68458 | = | 68458 |
2 x 34229 | = | 68458 |
13 x 5266 | = | 68458 |
26 x 2633 | = | 68458 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68458
1 + 2 + 13 + 26 + 2633 + 5266 + 34229 + 68458 = 110628
▶ ตัวประกอบของ 68458 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 2633
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68458 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68458 = 2 x 13 x 2633
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68458 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68458 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68458 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34229
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68458
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68458 แบบที่หนึ่ง
- 68458
- 26
- 2
- 13
- 2633
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68458 แบบที่สอง
- 68458
- 2
- 34229
- 13
- 2633
ดังนั้น 68458 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68458 =
2 x 13 x 2633
2. การแยกตัวประกอบของ 68458 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68458 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68458 นั้นก็คือ 2, 13, 2633 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68458
2)6845813)342292633)26331ดังนั้น 68458 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68458 = 2 x 13 x 2633วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68458
1แยกตัวประกอบของ 68458 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 263312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2633 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68458 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68458 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68458 นั้นก็คือ 2, 13, 2633 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68458
2
)68458
13
)34229
2633
)2633
1
ดังนั้น 68458 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68458 = 2 x 13 x 2633
1แยกตัวประกอบของ 68458 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 26331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2633 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68458 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68458 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇