ตัวประกอบของ 65698 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65698
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65698 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65698 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65698 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65698 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65698 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 107, 214, 307, 614, 32849, 65698
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65698 ÷ 1 | = | 65698 | เหลือเศษ 0 |
65698 ÷ 2 | = | 32849 | เหลือเศษ 0 |
65698 ÷ 107 | = | 614 | เหลือเศษ 0 |
65698 ÷ 214 | = | 307 | เหลือเศษ 0 |
65698 ÷ 307 | = | 214 | เหลือเศษ 0 |
65698 ÷ 614 | = | 107 | เหลือเศษ 0 |
65698 ÷ 32849 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65698 ÷ 65698 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65698
1 x 65698 | = | 65698 |
2 x 32849 | = | 65698 |
107 x 614 | = | 65698 |
214 x 307 | = | 65698 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65698
1 + 2 + 107 + 214 + 307 + 614 + 32849 + 65698 = 99792
▶ ตัวประกอบของ 65698 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 107, 307
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65698 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65698 = 2 x 107 x 307
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65698 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65698 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65698 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32849
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65698
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65698 แบบที่หนึ่ง
- 65698
- 214
- 2
- 107
- 307
- 214
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65698 แบบที่สอง
- 65698
- 2
- 32849
- 107
- 307
ดังนั้น 65698 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65698 =
2 x 107 x 307
2. การแยกตัวประกอบของ 65698 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65698 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65698 นั้นก็คือ 2, 107, 307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65698
2)65698107)32849307)3071ดังนั้น 65698 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65698 = 2 x 107 x 307วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65698
1แยกตัวประกอบของ 65698 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1071 x 30712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 107 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65698 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65698 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65698 นั้นก็คือ 2, 107, 307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65698
2
)65698
107
)32849
307
)307
1
ดังนั้น 65698 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65698 = 2 x 107 x 307
1แยกตัวประกอบของ 65698 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1071 x 3071
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 107 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65698 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65698 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇