ตัวประกอบของ 65472 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65472
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65472 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65472 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65472 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65472 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65472 มีทั้งหมด 56 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 11, 12, 16, 22, 24, 31, 32, 33, 44, 48, 62, 64, 66, 88, 93, 96, 124, 132, 176, 186, 192, 248, 264, 341, 352, 372, 496, 528, 682, 704, 744, 992, 1023, 1056, 1364, 1488, 1984, 2046, 2112, 2728, 2976, 4092, 5456, 5952, 8184, 10912, 16368, 21824, 32736, 65472
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65472 ÷ 1 | = | 65472 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 2 | = | 32736 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 3 | = | 21824 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 4 | = | 16368 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 6 | = | 10912 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 8 | = | 8184 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 11 | = | 5952 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 12 | = | 5456 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 16 | = | 4092 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 22 | = | 2976 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 24 | = | 2728 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 31 | = | 2112 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 32 | = | 2046 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 33 | = | 1984 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 44 | = | 1488 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 48 | = | 1364 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 62 | = | 1056 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 64 | = | 1023 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 66 | = | 992 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 88 | = | 744 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 93 | = | 704 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 96 | = | 682 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 124 | = | 528 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 132 | = | 496 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 176 | = | 372 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 186 | = | 352 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 192 | = | 341 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 248 | = | 264 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 264 | = | 248 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 341 | = | 192 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 352 | = | 186 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 372 | = | 176 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 496 | = | 132 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 528 | = | 124 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 682 | = | 96 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 704 | = | 93 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 744 | = | 88 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 992 | = | 66 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 1023 | = | 64 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 1056 | = | 62 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 1364 | = | 48 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 1488 | = | 44 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 1984 | = | 33 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 2046 | = | 32 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 2112 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 2728 | = | 24 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 2976 | = | 22 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 4092 | = | 16 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 5456 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 5952 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 8184 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 10912 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 16368 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 21824 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 32736 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65472 ÷ 65472 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65472
1 x 65472 | = | 65472 |
2 x 32736 | = | 65472 |
3 x 21824 | = | 65472 |
4 x 16368 | = | 65472 |
6 x 10912 | = | 65472 |
8 x 8184 | = | 65472 |
11 x 5952 | = | 65472 |
12 x 5456 | = | 65472 |
16 x 4092 | = | 65472 |
22 x 2976 | = | 65472 |
24 x 2728 | = | 65472 |
31 x 2112 | = | 65472 |
32 x 2046 | = | 65472 |
33 x 1984 | = | 65472 |
44 x 1488 | = | 65472 |
48 x 1364 | = | 65472 |
62 x 1056 | = | 65472 |
64 x 1023 | = | 65472 |
66 x 992 | = | 65472 |
88 x 744 | = | 65472 |
93 x 704 | = | 65472 |
96 x 682 | = | 65472 |
124 x 528 | = | 65472 |
132 x 496 | = | 65472 |
176 x 372 | = | 65472 |
186 x 352 | = | 65472 |
192 x 341 | = | 65472 |
248 x 264 | = | 65472 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65472
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 11 + 12 + 16 + 22 + 24 + 31 + 32 + 33 + 44 + 48 + 62 + 64 + 66 + 88 + 93 + 96 + 124 + 132 + 176 + 186 + 192 + 248 + 264 + 341 + 352 + 372 + 496 + 528 + 682 + 704 + 744 + 992 + 1023 + 1056 + 1364 + 1488 + 1984 + 2046 + 2112 + 2728 + 2976 + 4092 + 5456 + 5952 + 8184 + 10912 + 16368 + 21824 + 32736 + 65472 = 195072
▶ ตัวประกอบของ 65472 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 11, 31
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65472 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 11 x 31
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65472 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65472 = 26 x 3 x 11 x 31
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65472 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65472 = 26 x 3 x 11 x 31
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65472 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65472 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65472 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32736
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65472
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65472 แบบที่หนึ่ง
- 65472
- 248
- 8
- 2
- 4
- 2
- 2
- 31
- 8
- 264
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 22
- 2
- 11
- 12
- 248
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65472 แบบที่สอง
- 65472
- 2
- 32736
- 2
- 16368
- 2
- 8184
- 2
- 4092
- 2
- 2046
- 2
- 1023
- 3
- 341
- 11
- 31
ดังนั้น 65472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65472 =
2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 11 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65472 =
26 x 3 x 11 x 31 หรือ 26 x 31 x 111 x 311
2. การแยกตัวประกอบของ 65472 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65472 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65472 นั้นก็คือ 2, 3, 11, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65472
2)654722)327362)163682)81842)40922)20463)102311)34131)311ดังนั้น 65472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65472 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 11 x 31หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง65472 = 26 x 3 x 11 x 31 หรือ 26 x 31 x 111 x 311วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65472
1แยกตัวประกอบของ 65472 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 26 x 31 x 111 x 3112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 6 ให้เอา 6 + 1 = 7
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 7 x 2 x 2 x 2 = 56✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65472 มีทั้งหมด 56 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65472 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65472 นั้นก็คือ 2, 3, 11, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65472
2
)65472
2
)32736
2
)16368
2
)8184
2
)4092
2
)2046
3
)1023
11
)341
31
)31
1
ดังนั้น 65472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65472 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 3 x 11 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65472 = 26 x 3 x 11 x 31 หรือ 26 x 31 x 111 x 311
1แยกตัวประกอบของ 65472 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 26 x 31 x 111 x 311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 6 ให้เอา 6 + 1 = 7
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 7 x 2 x 2 x 2 = 56✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65472 มีทั้งหมด 56 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65472 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇