โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65480 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65480

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65480 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65480 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 8, 10, 20, 40, 1637, 3274, 6548, 8185, 13096, 16370, 32740, 65480
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65480 ÷ 1=65480เหลือเศษ 0
65480 ÷ 2=32740เหลือเศษ 0
65480 ÷ 4=16370เหลือเศษ 0
65480 ÷ 5=13096เหลือเศษ 0
65480 ÷ 8=8185เหลือเศษ 0
65480 ÷ 10=6548เหลือเศษ 0
65480 ÷ 20=3274เหลือเศษ 0
65480 ÷ 40=1637เหลือเศษ 0
65480 ÷ 1637=40เหลือเศษ 0
65480 ÷ 3274=20เหลือเศษ 0
65480 ÷ 6548=10เหลือเศษ 0
65480 ÷ 8185=8เหลือเศษ 0
65480 ÷ 13096=5เหลือเศษ 0
65480 ÷ 16370=4เหลือเศษ 0
65480 ÷ 32740=2เหลือเศษ 0
65480 ÷ 65480=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65480
1 x 65480
2 x 32740
4 x 16370
5 x 13096
8 x 8185
10 x 6548
20 x 3274
40 x 1637
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65480
1 + 2 + 4 + 5 + 8 + 10 + 20 + 40 + 1637 + 3274 + 6548 + 8185 + 13096 + 16370 + 32740 + 65480 = 147420
ตัวประกอบของ 65480 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 1637
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65480 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65480 = 2 x 2 x 2 x 5 x 1637
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65480 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65480 = 23 x 5 x 1637
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65480 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65480 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65480 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32740
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65480
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65480 แบบที่หนึ่ง
  • 65480
    • 40
      • 5
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 1637

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65480 แบบที่สอง
  • 65480
    • 2
    • 32740
      • 2
      • 16370
        • 2
        • 8185
          • 5
          • 1637
ดังนั้น 65480 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65480 = 2 x 2 x 2 x 5 x 1637
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65480 = 23 x 5 x 1637 หรือ 23 x 51 x 16371

2. การแยกตัวประกอบของ 65480 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65480 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65480 นั้นก็คือ 2, 5, 1637 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65480

2
)65480
2
)32740
2
)16370
5
)8185
1637
)1637
1
ดังนั้น 65480 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65480 = 2 x 2 x 2 x 5 x 1637
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65480 = 23 x 5 x 1637 หรือ 23 x 51 x 16371

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65480

1แยกตัวประกอบของ 65480 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 51 x 16371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1637 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65480 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65480 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇