ตัวประกอบของ 25510 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25510
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25510 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25510 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25510 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25510 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25510 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 2551, 5102, 12755, 25510
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25510 ÷ 1 | = | 25510 | เหลือเศษ 0 |
| 25510 ÷ 2 | = | 12755 | เหลือเศษ 0 |
| 25510 ÷ 5 | = | 5102 | เหลือเศษ 0 |
| 25510 ÷ 10 | = | 2551 | เหลือเศษ 0 |
| 25510 ÷ 2551 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 25510 ÷ 5102 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 25510 ÷ 12755 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 25510 ÷ 25510 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25510
| 1 x 25510 | = | 25510 |
| 2 x 12755 | = | 25510 |
| 5 x 5102 | = | 25510 |
| 10 x 2551 | = | 25510 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25510
1 + 2 + 5 + 10 + 2551 + 5102 + 12755 + 25510 = 45936
▶ ตัวประกอบของ 25510 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 2551
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25510 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25510 = 2 x 5 x 2551
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25510 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25510 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25510 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12755
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25510
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25510 แบบที่หนึ่ง
- 25510
- 10
- 2
- 5
- 2551
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25510 แบบที่สอง
- 25510
- 2
- 12755
- 5
- 2551
ดังนั้น 25510 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25510 =
2 x 5 x 2551
2. การแยกตัวประกอบของ 25510 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25510 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25510 นั้นก็คือ 2, 5, 2551 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25510
2)255105)127552551)25511ดังนั้น 25510 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25510 = 2 x 5 x 2551วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25510
1แยกตัวประกอบของ 25510 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 255112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2551 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25510 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25510 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25510 นั้นก็คือ 2, 5, 2551 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25510
2
)25510
5
)12755
2551
)2551
1
ดังนั้น 25510 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25510 = 2 x 5 x 2551
1แยกตัวประกอบของ 25510 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 25511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2551 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25510 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25510 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇