ตัวประกอบของ 17702 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 17702
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 17702 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 17702 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 17702 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 17702 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 17702 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 53, 106, 167, 334, 8851, 17702
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
17702 ÷ 1 | = | 17702 | เหลือเศษ 0 |
17702 ÷ 2 | = | 8851 | เหลือเศษ 0 |
17702 ÷ 53 | = | 334 | เหลือเศษ 0 |
17702 ÷ 106 | = | 167 | เหลือเศษ 0 |
17702 ÷ 167 | = | 106 | เหลือเศษ 0 |
17702 ÷ 334 | = | 53 | เหลือเศษ 0 |
17702 ÷ 8851 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
17702 ÷ 17702 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 17702
1 x 17702 | = | 17702 |
2 x 8851 | = | 17702 |
53 x 334 | = | 17702 |
106 x 167 | = | 17702 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 17702
1 + 2 + 53 + 106 + 167 + 334 + 8851 + 17702 = 27216
▶ ตัวประกอบของ 17702 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 53, 167
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 17702 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17702 = 2 x 53 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 17702 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 17702 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 17702 มา 1 คู่ เช่น 2 x 8851
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17702
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17702 แบบที่หนึ่ง
- 17702
- 106
- 2
- 53
- 167
- 106
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17702 แบบที่สอง
- 17702
- 2
- 8851
- 53
- 167
ดังนั้น 17702 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17702 =
2 x 53 x 167
2. การแยกตัวประกอบของ 17702 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 17702 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17702 นั้นก็คือ 2, 53, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17702
2)1770253)8851167)1671ดังนั้น 17702 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้17702 = 2 x 53 x 167วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 17702
1แยกตัวประกอบของ 17702 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 531 x 16712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17702 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 17702 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17702 นั้นก็คือ 2, 53, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17702
2
)17702
53
)8851
167
)167
1
ดังนั้น 17702 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17702 = 2 x 53 x 167
1แยกตัวประกอบของ 17702 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 531 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17702 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 17702 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇