ตัวประกอบของ 1322 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1322
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1322 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1322 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 1322 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1322 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1322 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 661, 1322
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 1322 ÷ 1 | = | 1322 | เหลือเศษ 0 |
| 1322 ÷ 2 | = | 661 | เหลือเศษ 0 |
| 1322 ÷ 661 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 1322 ÷ 1322 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1322
| 1 x 1322 | = | 1322 |
| 2 x 661 | = | 1322 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1322
1 + 2 + 661 + 1322 = 1986
▶ ตัวประกอบของ 1322 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 661
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1322 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1322 = 2 x 661
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1322 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1322 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1322 มา 1 คู่ เช่น 2 x 661
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1322
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1322
- 1322
- 2
- 661
ดังนั้น 1322 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1322 =
2 x 661
2. การแยกตัวประกอบของ 1322 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1322 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1322 นั้นก็คือ 2, 661 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1322
2)1322661)6611ดังนั้น 1322 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1322 = 2 x 661วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1322
1แยกตัวประกอบของ 1322 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 66112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 661 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1322 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1322 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1322 นั้นก็คือ 2, 661 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1322
2
)1322
661
)661
1
ดังนั้น 1322 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1322 = 2 x 661
1แยกตัวประกอบของ 1322 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 6611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 661 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1322 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1322 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇