โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 8472 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8472

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 8472 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 8472 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 353, 706, 1059, 1412, 2118, 2824, 4236, 8472
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8472 ÷ 1=8472เหลือเศษ 0
8472 ÷ 2=4236เหลือเศษ 0
8472 ÷ 3=2824เหลือเศษ 0
8472 ÷ 4=2118เหลือเศษ 0
8472 ÷ 6=1412เหลือเศษ 0
8472 ÷ 8=1059เหลือเศษ 0
8472 ÷ 12=706เหลือเศษ 0
8472 ÷ 24=353เหลือเศษ 0
8472 ÷ 353=24เหลือเศษ 0
8472 ÷ 706=12เหลือเศษ 0
8472 ÷ 1059=8เหลือเศษ 0
8472 ÷ 1412=6เหลือเศษ 0
8472 ÷ 2118=4เหลือเศษ 0
8472 ÷ 2824=3เหลือเศษ 0
8472 ÷ 4236=2เหลือเศษ 0
8472 ÷ 8472=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8472
1 x 8472
2 x 4236
3 x 2824
4 x 2118
6 x 1412
8 x 1059
12 x 706
24 x 353
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8472
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 353 + 706 + 1059 + 1412 + 2118 + 2824 + 4236 + 8472 = 21240
ตัวประกอบของ 8472 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 353
การแยกตัวประกอบคืออะไร

8472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

8472 = 2 x 2 x 2 x 3 x 353
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8472 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8472 = 23 x 3 x 353
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 8472 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8472 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8472 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4236
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8472
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8472 แบบที่หนึ่ง
  • 8472
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 353

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8472 แบบที่สอง
  • 8472
    • 2
    • 4236
      • 2
      • 2118
        • 2
        • 1059
          • 3
          • 353
ดังนั้น 8472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8472 = 2 x 2 x 2 x 3 x 353
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8472 = 23 x 3 x 353 หรือ 23 x 31 x 3531

2. การแยกตัวประกอบของ 8472 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 8472 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8472 นั้นก็คือ 2, 3, 353 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8472

2
)8472
2
)4236
2
)2118
3
)1059
353
)353
1
ดังนั้น 8472 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8472 = 2 x 2 x 2 x 3 x 353
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8472 = 23 x 3 x 353 หรือ 23 x 31 x 3531

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8472

1แยกตัวประกอบของ 8472 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 3531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 353 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8472 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8472 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇