ตัวประกอบของ 8468 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8468
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8468 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8468 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8468 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8468 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8468 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 29, 58, 73, 116, 146, 292, 2117, 4234, 8468
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8468 ÷ 1 | = | 8468 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 2 | = | 4234 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 4 | = | 2117 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 29 | = | 292 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 58 | = | 146 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 73 | = | 116 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 116 | = | 73 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 146 | = | 58 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 292 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 2117 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 4234 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
8468 ÷ 8468 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8468
1 x 8468 | = | 8468 |
2 x 4234 | = | 8468 |
4 x 2117 | = | 8468 |
29 x 292 | = | 8468 |
58 x 146 | = | 8468 |
73 x 116 | = | 8468 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8468
1 + 2 + 4 + 29 + 58 + 73 + 116 + 146 + 292 + 2117 + 4234 + 8468 = 15540
▶ ตัวประกอบของ 8468 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 29, 73
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8468 = 2 x 2 x 29 x 73
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8468 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8468 = 22 x 29 x 73
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8468 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8468 = 22 x 29 x 73
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8468 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8468 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8468 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4234
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8468
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8468 แบบที่หนึ่ง
- 8468
- 73
- 116
- 4
- 2
- 2
- 29
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8468 แบบที่สอง
- 8468
- 2
- 4234
- 2
- 2117
- 29
- 73
ดังนั้น 8468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8468 =
2 x 2 x 29 x 73
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8468 =
22 x 29 x 73 หรือ 22 x 291 x 731
2. การแยกตัวประกอบของ 8468 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8468 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8468 นั้นก็คือ 2, 29, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8468
2)84682)423429)211773)731ดังนั้น 8468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8468 = 2 x 2 x 29 x 73หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง8468 = 22 x 29 x 73 หรือ 22 x 291 x 731วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8468
1แยกตัวประกอบของ 8468 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 291 x 7312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8468 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8468 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8468 นั้นก็คือ 2, 29, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8468
2
)8468
2
)4234
29
)2117
73
)73
1
ดังนั้น 8468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8468 = 2 x 2 x 29 x 73
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8468 = 22 x 29 x 73 หรือ 22 x 291 x 731
1แยกตัวประกอบของ 8468 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 291 x 731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8468 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8468 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇