โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 69272 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 69272

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 69272 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 69272 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 1237, 2474, 4948, 8659, 9896, 17318, 34636, 69272
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
69272 ÷ 1=69272เหลือเศษ 0
69272 ÷ 2=34636เหลือเศษ 0
69272 ÷ 4=17318เหลือเศษ 0
69272 ÷ 7=9896เหลือเศษ 0
69272 ÷ 8=8659เหลือเศษ 0
69272 ÷ 14=4948เหลือเศษ 0
69272 ÷ 28=2474เหลือเศษ 0
69272 ÷ 56=1237เหลือเศษ 0
69272 ÷ 1237=56เหลือเศษ 0
69272 ÷ 2474=28เหลือเศษ 0
69272 ÷ 4948=14เหลือเศษ 0
69272 ÷ 8659=8เหลือเศษ 0
69272 ÷ 9896=7เหลือเศษ 0
69272 ÷ 17318=4เหลือเศษ 0
69272 ÷ 34636=2เหลือเศษ 0
69272 ÷ 69272=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 69272
1 x 69272
2 x 34636
4 x 17318
7 x 9896
8 x 8659
14 x 4948
28 x 2474
56 x 1237
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 69272
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 1237 + 2474 + 4948 + 8659 + 9896 + 17318 + 34636 + 69272 = 148560
ตัวประกอบของ 69272 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 1237
การแยกตัวประกอบคืออะไร

69272 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

69272 = 2 x 2 x 2 x 7 x 1237
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 69272 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
69272 = 23 x 7 x 1237
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 69272 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 69272 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 69272 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34636
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69272
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69272 แบบที่หนึ่ง
  • 69272
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 1237

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69272 แบบที่สอง
  • 69272
    • 2
    • 34636
      • 2
      • 17318
        • 2
        • 8659
          • 7
          • 1237
ดังนั้น 69272 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69272 = 2 x 2 x 2 x 7 x 1237
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69272 = 23 x 7 x 1237 หรือ 23 x 71 x 12371

2. การแยกตัวประกอบของ 69272 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 69272 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69272 นั้นก็คือ 2, 7, 1237 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69272

2
)69272
2
)34636
2
)17318
7
)8659
1237
)1237
1
ดังนั้น 69272 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69272 = 2 x 2 x 2 x 7 x 1237
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69272 = 23 x 7 x 1237 หรือ 23 x 71 x 12371

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 69272

1แยกตัวประกอบของ 69272 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 12371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1237 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69272 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 69272 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇