โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68416 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68416

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68416 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68416 มีทั้งหมด 14 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 64, 1069, 2138, 4276, 8552, 17104, 34208, 68416
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68416 ÷ 1=68416เหลือเศษ 0
68416 ÷ 2=34208เหลือเศษ 0
68416 ÷ 4=17104เหลือเศษ 0
68416 ÷ 8=8552เหลือเศษ 0
68416 ÷ 16=4276เหลือเศษ 0
68416 ÷ 32=2138เหลือเศษ 0
68416 ÷ 64=1069เหลือเศษ 0
68416 ÷ 1069=64เหลือเศษ 0
68416 ÷ 2138=32เหลือเศษ 0
68416 ÷ 4276=16เหลือเศษ 0
68416 ÷ 8552=8เหลือเศษ 0
68416 ÷ 17104=4เหลือเศษ 0
68416 ÷ 34208=2เหลือเศษ 0
68416 ÷ 68416=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68416
1 x 68416
2 x 34208
4 x 17104
8 x 8552
16 x 4276
32 x 2138
64 x 1069
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68416
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 64 + 1069 + 2138 + 4276 + 8552 + 17104 + 34208 + 68416 = 135890
ตัวประกอบของ 68416 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1069
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68416 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68416 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 1069
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68416 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68416 = 26 x 1069
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68416 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68416 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68416 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34208
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68416
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68416 แบบที่หนึ่ง
  • 68416
    • 64
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 1069

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68416 แบบที่สอง
  • 68416
    • 2
    • 34208
      • 2
      • 17104
        • 2
        • 8552
          • 2
          • 4276
            • 2
            • 2138
              • 2
              • 1069
ดังนั้น 68416 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68416 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 1069
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68416 = 26 x 1069 หรือ 26 x 10691

2. การแยกตัวประกอบของ 68416 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68416 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68416 นั้นก็คือ 2, 1069 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68416

2
)68416
2
)34208
2
)17104
2
)8552
2
)4276
2
)2138
1069
)1069
1
ดังนั้น 68416 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68416 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 1069
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68416 = 26 x 1069 หรือ 26 x 10691

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68416

1แยกตัวประกอบของ 68416 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 26 x 10691
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 6 ให้เอา 6 + 1 = 7
  • 👉 1069 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 7 x 2 = 14
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68416 มีทั้งหมด 14 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68416 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇