โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68408 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68408

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68408 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68408 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 17, 34, 68, 136, 503, 1006, 2012, 4024, 8551, 17102, 34204, 68408
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68408 ÷ 1=68408เหลือเศษ 0
68408 ÷ 2=34204เหลือเศษ 0
68408 ÷ 4=17102เหลือเศษ 0
68408 ÷ 8=8551เหลือเศษ 0
68408 ÷ 17=4024เหลือเศษ 0
68408 ÷ 34=2012เหลือเศษ 0
68408 ÷ 68=1006เหลือเศษ 0
68408 ÷ 136=503เหลือเศษ 0
68408 ÷ 503=136เหลือเศษ 0
68408 ÷ 1006=68เหลือเศษ 0
68408 ÷ 2012=34เหลือเศษ 0
68408 ÷ 4024=17เหลือเศษ 0
68408 ÷ 8551=8เหลือเศษ 0
68408 ÷ 17102=4เหลือเศษ 0
68408 ÷ 34204=2เหลือเศษ 0
68408 ÷ 68408=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68408
1 x 68408
2 x 34204
4 x 17102
8 x 8551
17 x 4024
34 x 2012
68 x 1006
136 x 503
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68408
1 + 2 + 4 + 8 + 17 + 34 + 68 + 136 + 503 + 1006 + 2012 + 4024 + 8551 + 17102 + 34204 + 68408 = 136080
ตัวประกอบของ 68408 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 17, 503
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68408 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68408 = 2 x 2 x 2 x 17 x 503
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68408 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68408 = 23 x 17 x 503
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68408 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68408 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68408 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34204
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68408
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68408 แบบที่หนึ่ง
  • 68408
    • 136
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 17
    • 503

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68408 แบบที่สอง
  • 68408
    • 2
    • 34204
      • 2
      • 17102
        • 2
        • 8551
          • 17
          • 503
ดังนั้น 68408 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68408 = 2 x 2 x 2 x 17 x 503
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68408 = 23 x 17 x 503 หรือ 23 x 171 x 5031

2. การแยกตัวประกอบของ 68408 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68408 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68408 นั้นก็คือ 2, 17, 503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68408

2
)68408
2
)34204
2
)17102
17
)8551
503
)503
1
ดังนั้น 68408 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68408 = 2 x 2 x 2 x 17 x 503
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68408 = 23 x 17 x 503 หรือ 23 x 171 x 5031

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68408

1แยกตัวประกอบของ 68408 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 171 x 5031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68408 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68408 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇