โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68350 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68350

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68350 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68350 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 25, 50, 1367, 2734, 6835, 13670, 34175, 68350
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68350 ÷ 1=68350เหลือเศษ 0
68350 ÷ 2=34175เหลือเศษ 0
68350 ÷ 5=13670เหลือเศษ 0
68350 ÷ 10=6835เหลือเศษ 0
68350 ÷ 25=2734เหลือเศษ 0
68350 ÷ 50=1367เหลือเศษ 0
68350 ÷ 1367=50เหลือเศษ 0
68350 ÷ 2734=25เหลือเศษ 0
68350 ÷ 6835=10เหลือเศษ 0
68350 ÷ 13670=5เหลือเศษ 0
68350 ÷ 34175=2เหลือเศษ 0
68350 ÷ 68350=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68350
1 x 68350
2 x 34175
5 x 13670
10 x 6835
25 x 2734
50 x 1367
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68350
1 + 2 + 5 + 10 + 25 + 50 + 1367 + 2734 + 6835 + 13670 + 34175 + 68350 = 127224
ตัวประกอบของ 68350 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 1367
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68350 = 2 x 5 x 5 x 1367
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68350 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68350 = 2 x 52 x 1367
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68350 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68350 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68350 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34175
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68350
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68350 แบบที่หนึ่ง
  • 68350
    • 50
      • 5
      • 10
        • 2
        • 5
    • 1367

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68350 แบบที่สอง
  • 68350
    • 2
    • 34175
      • 5
      • 6835
        • 5
        • 1367
ดังนั้น 68350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68350 = 2 x 5 x 5 x 1367
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68350 = 2 x 52 x 1367 หรือ 21 x 52 x 13671

2. การแยกตัวประกอบของ 68350 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68350 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68350 นั้นก็คือ 2, 5, 1367 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68350

2
)68350
5
)34175
5
)6835
1367
)1367
1
ดังนั้น 68350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68350 = 2 x 5 x 5 x 1367
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68350 = 2 x 52 x 1367 หรือ 21 x 52 x 13671

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68350

1แยกตัวประกอบของ 68350 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 13671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 1367 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68350 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68350 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇