ตัวประกอบของ 68349 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68349
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68349 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68349 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 68349 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68349 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68349 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 22783, 68349
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 68349 ÷ 1 | = | 68349 | เหลือเศษ 0 |
| 68349 ÷ 3 | = | 22783 | เหลือเศษ 0 |
| 68349 ÷ 22783 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 68349 ÷ 68349 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68349
| 1 x 68349 | = | 68349 |
| 3 x 22783 | = | 68349 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68349
1 + 3 + 22783 + 68349 = 91136
▶ ตัวประกอบของ 68349 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 22783
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68349 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68349 = 3 x 22783
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68349 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68349 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68349 มา 1 คู่ เช่น 3 x 22783
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68349
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68349
- 68349
- 3
- 22783
ดังนั้น 68349 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68349 =
3 x 22783
2. การแยกตัวประกอบของ 68349 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68349 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68349 นั้นก็คือ 3, 22783 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68349
3)6834922783)227831ดังนั้น 68349 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68349 = 3 x 22783วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68349
1แยกตัวประกอบของ 68349 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 2278312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 22783 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68349 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68349 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68349 นั้นก็คือ 3, 22783 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68349
3
)68349
22783
)22783
1
ดังนั้น 68349 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68349 = 3 x 22783
1แยกตัวประกอบของ 68349 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 227831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 22783 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68349 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68349 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇