โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68232 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68232

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68232 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68232 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 2843, 5686, 8529, 11372, 17058, 22744, 34116, 68232
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68232 ÷ 1=68232เหลือเศษ 0
68232 ÷ 2=34116เหลือเศษ 0
68232 ÷ 3=22744เหลือเศษ 0
68232 ÷ 4=17058เหลือเศษ 0
68232 ÷ 6=11372เหลือเศษ 0
68232 ÷ 8=8529เหลือเศษ 0
68232 ÷ 12=5686เหลือเศษ 0
68232 ÷ 24=2843เหลือเศษ 0
68232 ÷ 2843=24เหลือเศษ 0
68232 ÷ 5686=12เหลือเศษ 0
68232 ÷ 8529=8เหลือเศษ 0
68232 ÷ 11372=6เหลือเศษ 0
68232 ÷ 17058=4เหลือเศษ 0
68232 ÷ 22744=3เหลือเศษ 0
68232 ÷ 34116=2เหลือเศษ 0
68232 ÷ 68232=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68232
1 x 68232
2 x 34116
3 x 22744
4 x 17058
6 x 11372
8 x 8529
12 x 5686
24 x 2843
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68232
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 2843 + 5686 + 8529 + 11372 + 17058 + 22744 + 34116 + 68232 = 170640
ตัวประกอบของ 68232 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 2843
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68232 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68232 = 2 x 2 x 2 x 3 x 2843
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68232 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68232 = 23 x 3 x 2843
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68232 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68232 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68232 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34116
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68232
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68232 แบบที่หนึ่ง
  • 68232
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 2843

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68232 แบบที่สอง
  • 68232
    • 2
    • 34116
      • 2
      • 17058
        • 2
        • 8529
          • 3
          • 2843
ดังนั้น 68232 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68232 = 2 x 2 x 2 x 3 x 2843
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68232 = 23 x 3 x 2843 หรือ 23 x 31 x 28431

2. การแยกตัวประกอบของ 68232 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68232 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68232 นั้นก็คือ 2, 3, 2843 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68232

2
)68232
2
)34116
2
)17058
3
)8529
2843
)2843
1
ดังนั้น 68232 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68232 = 2 x 2 x 2 x 3 x 2843
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68232 = 23 x 3 x 2843 หรือ 23 x 31 x 28431

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68232

1แยกตัวประกอบของ 68232 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 28431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 2843 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68232 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68232 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇