โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68238 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68238

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68238 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68238 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 17, 18, 34, 51, 102, 153, 223, 306, 446, 669, 1338, 2007, 3791, 4014, 7582, 11373, 22746, 34119, 68238
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68238 ÷ 1=68238เหลือเศษ 0
68238 ÷ 2=34119เหลือเศษ 0
68238 ÷ 3=22746เหลือเศษ 0
68238 ÷ 6=11373เหลือเศษ 0
68238 ÷ 9=7582เหลือเศษ 0
68238 ÷ 17=4014เหลือเศษ 0
68238 ÷ 18=3791เหลือเศษ 0
68238 ÷ 34=2007เหลือเศษ 0
68238 ÷ 51=1338เหลือเศษ 0
68238 ÷ 102=669เหลือเศษ 0
68238 ÷ 153=446เหลือเศษ 0
68238 ÷ 223=306เหลือเศษ 0
68238 ÷ 306=223เหลือเศษ 0
68238 ÷ 446=153เหลือเศษ 0
68238 ÷ 669=102เหลือเศษ 0
68238 ÷ 1338=51เหลือเศษ 0
68238 ÷ 2007=34เหลือเศษ 0
68238 ÷ 3791=18เหลือเศษ 0
68238 ÷ 4014=17เหลือเศษ 0
68238 ÷ 7582=9เหลือเศษ 0
68238 ÷ 11373=6เหลือเศษ 0
68238 ÷ 22746=3เหลือเศษ 0
68238 ÷ 34119=2เหลือเศษ 0
68238 ÷ 68238=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68238
1 x 68238
2 x 34119
3 x 22746
6 x 11373
9 x 7582
17 x 4014
18 x 3791
34 x 2007
51 x 1338
102 x 669
153 x 446
223 x 306
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68238
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 17 + 18 + 34 + 51 + 102 + 153 + 223 + 306 + 446 + 669 + 1338 + 2007 + 3791 + 4014 + 7582 + 11373 + 22746 + 34119 + 68238 = 157248
ตัวประกอบของ 68238 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 17, 223
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68238 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68238 = 2 x 3 x 3 x 17 x 223
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68238 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68238 = 2 x 32 x 17 x 223
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68238 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68238 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68238 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34119
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68238
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68238 แบบที่หนึ่ง
  • 68238
    • 223
    • 306
      • 17
      • 18
        • 3
        • 6
          • 2
          • 3

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68238 แบบที่สอง
  • 68238
    • 2
    • 34119
      • 3
      • 11373
        • 3
        • 3791
          • 17
          • 223
ดังนั้น 68238 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68238 = 2 x 3 x 3 x 17 x 223
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68238 = 2 x 32 x 17 x 223 หรือ 21 x 32 x 171 x 2231

2. การแยกตัวประกอบของ 68238 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68238 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68238 นั้นก็คือ 2, 3, 17, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68238

2
)68238
3
)34119
3
)11373
17
)3791
223
)223
1
ดังนั้น 68238 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68238 = 2 x 3 x 3 x 17 x 223
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68238 = 2 x 32 x 17 x 223 หรือ 21 x 32 x 171 x 2231

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68238

1แยกตัวประกอบของ 68238 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 171 x 2231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68238 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68238 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇