ตัวประกอบของ 6567 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6567
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6567 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6567 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6567 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6567 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6567 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 11, 33, 199, 597, 2189, 6567
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6567 ÷ 1 | = | 6567 | เหลือเศษ 0 |
6567 ÷ 3 | = | 2189 | เหลือเศษ 0 |
6567 ÷ 11 | = | 597 | เหลือเศษ 0 |
6567 ÷ 33 | = | 199 | เหลือเศษ 0 |
6567 ÷ 199 | = | 33 | เหลือเศษ 0 |
6567 ÷ 597 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
6567 ÷ 2189 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
6567 ÷ 6567 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6567
1 x 6567 | = | 6567 |
3 x 2189 | = | 6567 |
11 x 597 | = | 6567 |
33 x 199 | = | 6567 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6567
1 + 3 + 11 + 33 + 199 + 597 + 2189 + 6567 = 9600
▶ ตัวประกอบของ 6567 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 11, 199
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6567 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6567 = 3 x 11 x 199
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6567 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6567 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6567 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2189
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6567
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6567 แบบที่หนึ่ง
- 6567
- 33
- 3
- 11
- 199
- 33
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6567 แบบที่สอง
- 6567
- 3
- 2189
- 11
- 199
ดังนั้น 6567 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6567 =
3 x 11 x 199
2. การแยกตัวประกอบของ 6567 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6567 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6567 นั้นก็คือ 3, 11, 199 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6567
3)656711)2189199)1991ดังนั้น 6567 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6567 = 3 x 11 x 199วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6567
1แยกตัวประกอบของ 6567 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 19912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 199 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6567 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6567 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6567 นั้นก็คือ 3, 11, 199 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6567
3
)6567
11
)2189
199
)199
1
ดังนั้น 6567 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6567 = 3 x 11 x 199
1แยกตัวประกอบของ 6567 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 1991
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 199 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6567 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6567 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇