ตัวประกอบของ 6565 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6565
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6565 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6565 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6565 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6565 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6565 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 13, 65, 101, 505, 1313, 6565
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6565 ÷ 1 | = | 6565 | เหลือเศษ 0 |
6565 ÷ 5 | = | 1313 | เหลือเศษ 0 |
6565 ÷ 13 | = | 505 | เหลือเศษ 0 |
6565 ÷ 65 | = | 101 | เหลือเศษ 0 |
6565 ÷ 101 | = | 65 | เหลือเศษ 0 |
6565 ÷ 505 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
6565 ÷ 1313 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
6565 ÷ 6565 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6565
1 x 6565 | = | 6565 |
5 x 1313 | = | 6565 |
13 x 505 | = | 6565 |
65 x 101 | = | 6565 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6565
1 + 5 + 13 + 65 + 101 + 505 + 1313 + 6565 = 8568
▶ ตัวประกอบของ 6565 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 13, 101
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6565 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6565 = 5 x 13 x 101
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6565 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6565 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6565 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1313
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6565
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6565 แบบที่หนึ่ง
- 6565
- 65
- 5
- 13
- 101
- 65
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6565 แบบที่สอง
- 6565
- 5
- 1313
- 13
- 101
ดังนั้น 6565 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6565 =
5 x 13 x 101
2. การแยกตัวประกอบของ 6565 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6565 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6565 นั้นก็คือ 5, 13, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6565
5)656513)1313101)1011ดังนั้น 6565 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6565 = 5 x 13 x 101วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6565
1แยกตัวประกอบของ 6565 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 131 x 10112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6565 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6565 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6565 นั้นก็คือ 5, 13, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6565
5
)6565
13
)1313
101
)101
1
ดังนั้น 6565 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6565 = 5 x 13 x 101
1แยกตัวประกอบของ 6565 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 131 x 1011
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6565 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6565 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇