ตัวประกอบของ 6574 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6574
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6574 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6574 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6574 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6574 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6574 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 19, 38, 173, 346, 3287, 6574
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6574 ÷ 1 | = | 6574 | เหลือเศษ 0 |
6574 ÷ 2 | = | 3287 | เหลือเศษ 0 |
6574 ÷ 19 | = | 346 | เหลือเศษ 0 |
6574 ÷ 38 | = | 173 | เหลือเศษ 0 |
6574 ÷ 173 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
6574 ÷ 346 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
6574 ÷ 3287 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
6574 ÷ 6574 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6574
1 x 6574 | = | 6574 |
2 x 3287 | = | 6574 |
19 x 346 | = | 6574 |
38 x 173 | = | 6574 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6574
1 + 2 + 19 + 38 + 173 + 346 + 3287 + 6574 = 10440
▶ ตัวประกอบของ 6574 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 173
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6574 = 2 x 19 x 173
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6574 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6574 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6574 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3287
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6574
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6574 แบบที่หนึ่ง
- 6574
- 38
- 2
- 19
- 173
- 38
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6574 แบบที่สอง
- 6574
- 2
- 3287
- 19
- 173
ดังนั้น 6574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6574 =
2 x 19 x 173
2. การแยกตัวประกอบของ 6574 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6574 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6574 นั้นก็คือ 2, 19, 173 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6574
2)657419)3287173)1731ดังนั้น 6574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6574 = 2 x 19 x 173วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6574
1แยกตัวประกอบของ 6574 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 17312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 173 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6574 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6574 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6574 นั้นก็คือ 2, 19, 173 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6574
2
)6574
19
)3287
173
)173
1
ดังนั้น 6574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6574 = 2 x 19 x 173
1แยกตัวประกอบของ 6574 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 1731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 173 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6574 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6574 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇