โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65236 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65236

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65236 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65236 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 47, 94, 188, 347, 694, 1388, 16309, 32618, 65236
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65236 ÷ 1=65236เหลือเศษ 0
65236 ÷ 2=32618เหลือเศษ 0
65236 ÷ 4=16309เหลือเศษ 0
65236 ÷ 47=1388เหลือเศษ 0
65236 ÷ 94=694เหลือเศษ 0
65236 ÷ 188=347เหลือเศษ 0
65236 ÷ 347=188เหลือเศษ 0
65236 ÷ 694=94เหลือเศษ 0
65236 ÷ 1388=47เหลือเศษ 0
65236 ÷ 16309=4เหลือเศษ 0
65236 ÷ 32618=2เหลือเศษ 0
65236 ÷ 65236=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65236
1 x 65236
2 x 32618
4 x 16309
47 x 1388
94 x 694
188 x 347
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65236
1 + 2 + 4 + 47 + 94 + 188 + 347 + 694 + 1388 + 16309 + 32618 + 65236 = 116928
ตัวประกอบของ 65236 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 47, 347
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65236 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65236 = 2 x 2 x 47 x 347
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65236 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65236 = 22 x 47 x 347
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65236 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65236 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65236 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32618
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65236
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65236 แบบที่หนึ่ง
  • 65236
    • 188
      • 4
        • 2
        • 2
      • 47
    • 347

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65236 แบบที่สอง
  • 65236
    • 2
    • 32618
      • 2
      • 16309
        • 47
        • 347
ดังนั้น 65236 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65236 = 2 x 2 x 47 x 347
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65236 = 22 x 47 x 347 หรือ 22 x 471 x 3471

2. การแยกตัวประกอบของ 65236 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65236 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65236 นั้นก็คือ 2, 47, 347 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65236

2
)65236
2
)32618
47
)16309
347
)347
1
ดังนั้น 65236 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65236 = 2 x 2 x 47 x 347
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65236 = 22 x 47 x 347 หรือ 22 x 471 x 3471

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65236

1แยกตัวประกอบของ 65236 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 471 x 3471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 347 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65236 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65236 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇