โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5406 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5406

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5406 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5406 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 17, 34, 51, 53, 102, 106, 159, 318, 901, 1802, 2703, 5406
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5406 ÷ 1=5406เหลือเศษ 0
5406 ÷ 2=2703เหลือเศษ 0
5406 ÷ 3=1802เหลือเศษ 0
5406 ÷ 6=901เหลือเศษ 0
5406 ÷ 17=318เหลือเศษ 0
5406 ÷ 34=159เหลือเศษ 0
5406 ÷ 51=106เหลือเศษ 0
5406 ÷ 53=102เหลือเศษ 0
5406 ÷ 102=53เหลือเศษ 0
5406 ÷ 106=51เหลือเศษ 0
5406 ÷ 159=34เหลือเศษ 0
5406 ÷ 318=17เหลือเศษ 0
5406 ÷ 901=6เหลือเศษ 0
5406 ÷ 1802=3เหลือเศษ 0
5406 ÷ 2703=2เหลือเศษ 0
5406 ÷ 5406=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5406
1 x 5406
2 x 2703
3 x 1802
6 x 901
17 x 318
34 x 159
51 x 106
53 x 102
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5406
1 + 2 + 3 + 6 + 17 + 34 + 51 + 53 + 102 + 106 + 159 + 318 + 901 + 1802 + 2703 + 5406 = 11664
ตัวประกอบของ 5406 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 17, 53
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5406 = 2 x 3 x 17 x 53
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5406 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5406 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5406 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2703
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5406
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5406 แบบที่หนึ่ง
  • 5406
    • 53
    • 102
      • 6
        • 2
        • 3
      • 17

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5406 แบบที่สอง
  • 5406
    • 2
    • 2703
      • 3
      • 901
        • 17
        • 53
ดังนั้น 5406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5406 = 2 x 3 x 17 x 53

2. การแยกตัวประกอบของ 5406 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5406 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5406 นั้นก็คือ 2, 3, 17, 53 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5406

2
)5406
3
)2703
17
)901
53
)53
1
ดังนั้น 5406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5406 = 2 x 3 x 17 x 53

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5406

1แยกตัวประกอบของ 5406 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 171 x 531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5406 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5406 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇