โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5248 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5248

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5248 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5248 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 41, 64, 82, 128, 164, 328, 656, 1312, 2624, 5248
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5248 ÷ 1=5248เหลือเศษ 0
5248 ÷ 2=2624เหลือเศษ 0
5248 ÷ 4=1312เหลือเศษ 0
5248 ÷ 8=656เหลือเศษ 0
5248 ÷ 16=328เหลือเศษ 0
5248 ÷ 32=164เหลือเศษ 0
5248 ÷ 41=128เหลือเศษ 0
5248 ÷ 64=82เหลือเศษ 0
5248 ÷ 82=64เหลือเศษ 0
5248 ÷ 128=41เหลือเศษ 0
5248 ÷ 164=32เหลือเศษ 0
5248 ÷ 328=16เหลือเศษ 0
5248 ÷ 656=8เหลือเศษ 0
5248 ÷ 1312=4เหลือเศษ 0
5248 ÷ 2624=2เหลือเศษ 0
5248 ÷ 5248=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5248
1 x 5248
2 x 2624
4 x 1312
8 x 656
16 x 328
32 x 164
41 x 128
64 x 82
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5248
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 41 + 64 + 82 + 128 + 164 + 328 + 656 + 1312 + 2624 + 5248 = 10710
ตัวประกอบของ 5248 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 41
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5248 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5248 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 41
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5248 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5248 = 27 x 41
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5248 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5248 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5248 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2624
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5248
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5248 แบบที่หนึ่ง
  • 5248
    • 64
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 82
      • 2
      • 41

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5248 แบบที่สอง
  • 5248
    • 2
    • 2624
      • 2
      • 1312
        • 2
        • 656
          • 2
          • 328
            • 2
            • 164
              • 2
              • 82
                • 2
                • 41
ดังนั้น 5248 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5248 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5248 = 27 x 41 หรือ 27 x 411

2. การแยกตัวประกอบของ 5248 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5248 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5248 นั้นก็คือ 2, 41 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5248

2
)5248
2
)2624
2
)1312
2
)656
2
)328
2
)164
2
)82
41
)41
1
ดังนั้น 5248 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5248 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 41
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5248 = 27 x 41 หรือ 27 x 411

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5248

1แยกตัวประกอบของ 5248 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 27 x 411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 7 ให้เอา 7 + 1 = 8
  • 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 8 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5248 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5248 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇