ตัวประกอบของ 4314 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4314
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4314 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4314 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4314 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4314 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4314 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 719, 1438, 2157, 4314
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4314 ÷ 1 | = | 4314 | เหลือเศษ 0 |
4314 ÷ 2 | = | 2157 | เหลือเศษ 0 |
4314 ÷ 3 | = | 1438 | เหลือเศษ 0 |
4314 ÷ 6 | = | 719 | เหลือเศษ 0 |
4314 ÷ 719 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
4314 ÷ 1438 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
4314 ÷ 2157 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
4314 ÷ 4314 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4314
1 x 4314 | = | 4314 |
2 x 2157 | = | 4314 |
3 x 1438 | = | 4314 |
6 x 719 | = | 4314 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4314
1 + 2 + 3 + 6 + 719 + 1438 + 2157 + 4314 = 8640
▶ ตัวประกอบของ 4314 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 719
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4314 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4314 = 2 x 3 x 719
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4314 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4314 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4314 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2157
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4314
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4314 แบบที่หนึ่ง
- 4314
- 6
- 2
- 3
- 719
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4314 แบบที่สอง
- 4314
- 2
- 2157
- 3
- 719
ดังนั้น 4314 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4314 =
2 x 3 x 719
2. การแยกตัวประกอบของ 4314 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4314 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4314 นั้นก็คือ 2, 3, 719 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4314
2)43143)2157719)7191ดังนั้น 4314 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4314 = 2 x 3 x 719วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4314
1แยกตัวประกอบของ 4314 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 71912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 719 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4314 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4314 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4314 นั้นก็คือ 2, 3, 719 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4314
2
)4314
3
)2157
719
)719
1
ดังนั้น 4314 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4314 = 2 x 3 x 719
1แยกตัวประกอบของ 4314 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 7191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 719 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4314 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4314 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇