ตัวประกอบของ 425 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 425
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 425 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 425 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 425 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 425 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 425 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 5, 17, 25, 85, 425
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
425 ÷ 1 | = | 425 | เหลือเศษ 0 |
425 ÷ 5 | = | 85 | เหลือเศษ 0 |
425 ÷ 17 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
425 ÷ 25 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
425 ÷ 85 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
425 ÷ 425 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 425
1 x 425 | = | 425 |
5 x 85 | = | 425 |
17 x 25 | = | 425 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 425
1 + 5 + 17 + 25 + 85 + 425 = 558
▶ ตัวประกอบของ 425 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 17
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 425 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
425 = 5 x 5 x 17
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 425 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
425 = 52 x 17
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 425 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
425 = 52 x 17
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 425 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 425 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 425 มา 1 คู่ เช่น 5 x 85
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 425
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 425 แบบที่หนึ่ง
- 425
- 17
- 25
- 5
- 5
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 425 แบบที่สอง
- 425
- 5
- 85
- 5
- 17
ดังนั้น 425 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
425 =
5 x 5 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
425 =
52 x 17 หรือ 52 x 171
2. การแยกตัวประกอบของ 425 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 425 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 425 นั้นก็คือ 5, 17 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 425
5)4255)8517)171ดังนั้น 425 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้425 = 5 x 5 x 17หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง425 = 52 x 17 หรือ 52 x 171วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 425
1แยกตัวประกอบของ 425 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 1712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 425 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 425 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 425 นั้นก็คือ 5, 17 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 425
5
)425
5
)85
17
)17
1
ดังนั้น 425 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
425 = 5 x 5 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
425 = 52 x 17 หรือ 52 x 171
1แยกตัวประกอบของ 425 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 425 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 425 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇