โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4225 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4225

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4225 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4225 มีทั้งหมด 9 ตัวคือ 1, 5, 13, 25, 65, 169, 325, 845, 4225
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4225 ÷ 1=4225เหลือเศษ 0
4225 ÷ 5=845เหลือเศษ 0
4225 ÷ 13=325เหลือเศษ 0
4225 ÷ 25=169เหลือเศษ 0
4225 ÷ 65=65เหลือเศษ 0
4225 ÷ 169=25เหลือเศษ 0
4225 ÷ 325=13เหลือเศษ 0
4225 ÷ 845=5เหลือเศษ 0
4225 ÷ 4225=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4225
1 x 4225
5 x 845
13 x 325
25 x 169
65 x 65
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4225
1 + 5 + 13 + 25 + 65 + 169 + 325 + 845 + 4225 = 5673
ตัวประกอบของ 4225 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4225 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4225 = 5 x 5 x 13 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4225 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4225 = 52 x 132
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4225 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4225 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4225 มา 1 คู่ เช่น 5 x 845
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4225
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4225 แบบที่หนึ่ง
  • 4225
    • 65
      • 5
      • 13
    • 65
      • 5
      • 13

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4225 แบบที่สอง
  • 4225
    • 5
    • 845
      • 5
      • 169
        • 13
        • 13
ดังนั้น 4225 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4225 = 5 x 5 x 13 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4225 = 52 x 132

2. การแยกตัวประกอบของ 4225 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4225 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4225 นั้นก็คือ 5, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4225

5
)4225
5
)845
13
)169
13
)13
1
ดังนั้น 4225 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4225 = 5 x 5 x 13 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4225 = 52 x 132

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4225

1แยกตัวประกอบของ 4225 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 132
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 = 9
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4225 มีทั้งหมด 9 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4225 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇