ตัวประกอบของ 4155 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4155
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4155 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4155 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4155 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4155 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4155 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 277, 831, 1385, 4155
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4155 ÷ 1 | = | 4155 | เหลือเศษ 0 |
4155 ÷ 3 | = | 1385 | เหลือเศษ 0 |
4155 ÷ 5 | = | 831 | เหลือเศษ 0 |
4155 ÷ 15 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
4155 ÷ 277 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
4155 ÷ 831 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
4155 ÷ 1385 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
4155 ÷ 4155 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4155
1 x 4155 | = | 4155 |
3 x 1385 | = | 4155 |
5 x 831 | = | 4155 |
15 x 277 | = | 4155 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4155
1 + 3 + 5 + 15 + 277 + 831 + 1385 + 4155 = 6672
▶ ตัวประกอบของ 4155 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4155 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4155 = 3 x 5 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4155 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4155 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4155 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1385
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4155
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4155 แบบที่หนึ่ง
- 4155
- 15
- 3
- 5
- 277
- 15
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4155 แบบที่สอง
- 4155
- 3
- 1385
- 5
- 277
ดังนั้น 4155 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4155 =
3 x 5 x 277
2. การแยกตัวประกอบของ 4155 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4155 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4155 นั้นก็คือ 3, 5, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4155
3)41555)1385277)2771ดังนั้น 4155 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4155 = 3 x 5 x 277วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4155
1แยกตัวประกอบของ 4155 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4155 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4155 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4155 นั้นก็คือ 3, 5, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4155
3
)4155
5
)1385
277
)277
1
ดังนั้น 4155 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4155 = 3 x 5 x 277
1แยกตัวประกอบของ 4155 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4155 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4155 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇